เมื่อพูดถึงหนังรักหลาย ๆ คนอาจจะมองหนังข้ามหนังรักที่เป็นฝีมือของคนไทย เพราะคิดว่ายังไงซะมันคงจบลงแบบเดิม หรือไม่เนื้อเรื่องก็คงจะไม่แตกต่างจากละครหลังข่าว เพียงแค่หนังรักของไทยมีความยาวเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จบ

หากคุณกำลังเป็นหนึ่งคนที่มีความคิดนั้นอยู่ล่ะก็ เราอยากให้คุณลองเปิดใจให้กับภาพยนตร์รักส่งท้ายปี 2020 อย่าง ‘วอน (เธอ)’ ที่ถึงแม้ตัวนักแสดงหรือทีเซอร์หนังอาจจะไม่ได้มีความดึงดูดมากนัก แต่หากคุณได้ไปชมเองจะรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ตัวละครและฉากต่าง ๆ พยายามถ่ายทอดสู่คนดู

รีวิวหนัง วอน(เธอ) หนังรักไทยม้ามืดแห่งปี 2020
รีวิวหนัง วอน(เธอ) หนังรักไทยม้ามืดแห่งปี 2020

ซึ่งเรื่องนี้ถูกถ่ายทำขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘เพราะความรักไม่ได้มีแค่ด้านเดียว’ จึงเกิดมาเป็นเรื่องราวของตัวละครทั้ง 4 คน 4 มุมมอง แต่เรื่องรักของพวกเขาเหล่านี้เป็นเรื่องเดียวกัน โดยผลงานการสร้างหนังเรื่องนี้เป็นของ ‘ชิง-สุโกสินทร์ อัครพัฒน์’ ที่ได้ปรับโหมดตัวเองมาสร้างหนังรักแทน โดยก่อนหน้านี้เขาเคยเขียนบทจากเฟรนไชส์หนัง ‘ตีสาม’ ให้ประสบผลสำเร็จมากแล้ว

สำหรับเรื่องโลเคชั่นในหนังก็ใช้สถานที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ถ่ายทำ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือแต่ละสถานที่ถูกปรับโทนสี แสง และการจัดวางต่าง ๆ ทำให้เราไม่รู้สึกคุ้นกับสถานที่ในหนัง ถือได้ว่าเป็นหนังรักวัยรุ่นที่สามารถยกระดับความโมเดิร์นของกรุงเทพฯได้อย่างดีเยี่ยม และเพลงที่นำมาจัดวางในหนังก็ทำออกมาได้ดีมาก ๆ เช่นกัน เอาเป็นว่าเพลงขึ้นตอนไหนก็ทำให้เราอินตามตัวละคร ณ เวลานั้นไปแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ

รีวิวหนัง วอน(เธอ) หนังรักไทยม้ามืดแห่งปี 2020
รีวิวหนัง วอน(เธอ) หนังรักไทยม้ามืดแห่งปี 2020

และเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นหนังรักธรรมดาแบบเรื่องอื่น ๆ แต่กลับเป็นหนังรักที่มาพร้อมกับข้อคิดเรื่องความรัก ว่าตัวเราจะเชื่อในมุมมองที่เราเห็นหรือเปล่า เพราะในหนังได้ถ่ายทอดออกมาว่าชีวิตของคนเราไม่ได้มีแค่มุมมองเดียว ทุกชีวิตล้วนมีเรื่องราวต่าง ๆ และทุกการตัดสินใจก็มักจะเป็นบันไดอีกขั้นที่ช่วยให้เราเติบโต และท้ายที่สุดหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่าทุกคนล้วนเป็นพระเอกนางเอกในเรื่องราวของตัวเองเสมอ อยู่ที่ว่าเราจะลงเล่นเองหรือไม่ เท่านั้น…

รีวิวหนัง วอน(เธอ) หนังรักไทยม้ามืดแห่งปี 2020
รีวิวหนัง วอน(เธอ) หนังรักไทยม้ามืดแห่งปี 2020

เป็นหนังรักส่งท้ายปี 2020 ที่เราอยากให้ทุกคนได้ไปดูจริง ๆ ค่ะ มันดีไปหมดทั้งนักแสดง โลเคชั่น โทนสี เพลง หากรวม ๆ คะแนนแบบเป็นกลางก็ขอให้เรื่องนี้ 8/10 แล้วกัน ขอแอบหักเนื้อเรื่องบางตอนที่ดูต่างจากความเป็นจริงไปสักเล็กน้อย แต่ภาพรวมถือว่าเป็นหนังที่อยู่ในระดับที่น่าจับตามองเลยค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม : True ID

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *